วันพุธที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2559

"สุรามหาราษฎร" หรือ "สุราทิพย์" มาแล้วก็จากไป มีแต่ "แม่โขงกับกวางทอง" เท่านั้น ที่ต้องอยู่ตลอดไปเพราะเป็นของคนไทย

ยุทธจักรเหล้าแต่ไหนแต่ไรมาเป็นเรื่องของผลประโยชน์ก้อนมหาศาลที่ไม่เข้าใครออกใคร การเริ่มของโรงงานสุราบางยี่ขันกับเหล้าแม่โขงเป็นการเริ่มที่ถูกต้อง เพราะเป็นการหารายได้เข้ารัฐโดยให้รัฐผลิตสินค้าที่ประชาชนต้องซื้อมาบริโภค 2503 เป็นจุดเปลี่ยนแปลงจุดแรกที่มีการให้สัมปทานโดยใช้อภิสิทธิ์ไม่มีการประมูล ทั้งนี้เราอาจจะตำหนิระบบการปกครองแบบเผด็จการก็ได้ ซึ่งเป็นตัวการส่งเสริมให้ผู้มีอำนาจซึ่งเผอิญเป็นทหารที่ถือปืนให้อภิสิทธิ์ออกไป 2513 เป็นสัญญาช่วงที่สองซึ่งก็ยังคงเป็นผลพวงของเผด็จการทหารที่ทำให้ธุรกิจไม่เป็นธุรกิจ ทำให้รัฐบาลขาดรายได้อันพึงควร 2523 เป็นช่วงสัญญาครั้งที่สามซึ่งเป็นครั้งแรกที่แม่โขงเริ่มหลุดพ้นจากอิทธิพลทางการเมืองและการทหารอย่างเด็ดขาด ส่วนหนึ่งที่สำคัญมากคือ บรรยากาศทางการเมืองซึ่งเอื้ออำนวยให้ระบบธุรกิจได้มีโอกาสพัฒนาตัวของ มันเองโดยปราศจากการแทรกแซงจากอิทธิพลภายนอก และก็มีหลักฐานประจักษ์พยานพิสูจน์เห็นชัดว่า เมื่อพ้นจากอิทธิพลของการเมืองและทหารแล้ว ผลประโยชน์ก็ตกเป็นของรัฐทันที เรื่องนี้ต้องถือว่าเป็นนิมิตที่ดีมาก เพราะเมื่อได้อะไรมาด้วยอภิสิทธิ์ การเก็บรักษาหรือทำการย่อมไม่มีความจริงใจต่อสิ่งนั้น เพราะต้องมัวปันใจไปให้ผู้มอบอภิสิทธิ์ และถ้าสิ่งที่ได้มาทำการนั้นเป็นสมบัติของชาติ เช่น แม่โขง ความจริงใจในอดีตก็ไม่มี เพราะถ้ามีความจริงใจแล้วผลประโยชน์จะต้องมอบให้รัฐได้เต็มที่ กลุ่มสุรามหาราษฎร กับกลุ่มสุราทิพย์ต่างก็เป็นพ่อค้าด้วยกันทั้งคู่ ชั้นเชิงทางการค้าที่ต่างฝ่ายต่างฟาดฟันกันก็เป็นเรื่องธรรมดาในวงการธุรกิจ หน้าที่ของรัฐก็คือ การตักตวงผลประโยชน์และวางตัวเป็นกลางป้องกันไม่ให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งล้ำเส้น ถ้ารัฐหรือผู้บริหารของรัฐผู้ใดบกพร่องในเรื่องวางตัวแล้วก็เท่ากับว่าผู้นั้นไม่ได้ทำหน้าที่รับใช้ประเทศชาติด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ส่วนกลุ่มสุรามหาราษฎรและกลุ่มสุราทิพย์ ต่างฝ่ายต่างก็มีหน้าที่ของการรับใช้ประเทศชาติในฐานะภาคเอกชน ในการประมูลของรัฐเมื่อชนะไปแล้วก็สมควรจะปฏิบัติตามเงื่อนไข ถ้าปฏิบัติไม่ได้ก็ต้องประสบกับภาวการณ์ไปตามครรลอง อย่างน้อยก็แสดงให้เห็นว่าตัวเองไม่รอบคอบในการทำการค้า! การที่ต้องพลาดเพราะมีจิตใจมุ่งมั่นในการทำลายคู่ต่อสู้มากกว่าความตั้งใจในการดำเนินธุรกิจการค้าทั่วๆ ไป ก็ย่อมสมควรแล้วที่จะต้องรับผลจากการกระทำ ซึ่งตัวเองเป็นผู้ก่อทั้งสิ้น!!! แต่ถ้าจะดิ้นโดยการลากเอาการเมืองและการทหารเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยนั้นนอกจากจะถูกตราหน้าว่าเป็นคนทำงานไม่มีฝีมือแล้ว ยังจะต้องถูกประวัติศาสตร์จารึกลงไปอีกว่า เป็นคนที่มีส่วนในการทำให้ระบอบการปกครองของประเทศถอยหลังเข้าคลองไปอีก ส่วนนักการเมืองหรือผู้บริหารประเทศคนใดที่ถูกลากเข้ามาในเวทีนี้ก็ควรจะระลึกเสมอว่า ความถูกต้องคือสัจธรรมของอุดมการณ์ เพราะถ้าขาดแล้วซึ่งอุดมการณ์ก็จะเป็นคนที่มีแต่ร่างกายที่ทำงานได้แต่ก็ไม่มีชีวิต ในสี่ห้าปีที่ผ่านมาประเทศชาติได้ผ่านพ้นวิกฤตการณ์ต่างๆ มาด้วยดี ส่วนหนึ่งเป็นเพราะพระบรมเดชานุภาพของพระราชวงศ์จักรี อีกส่วนหนึ่งเป็นเพราะคนไทยในทุกสาขาอาชีพต่างรู้ตัวว่ามีหน้าที่อะไรในชาติ สี่ห้าปีที่ผ่านมาเราได้เห็นนิมิตที่ดีหลายประการเช่น ข้าราชการที่เริ่มจริงจังกับบทบาทของตนเองในการพัฒนาประเทศ ประชาชนที่เข้าใจปัญหาของชาติและให้ความร่วมมือด้วยดีตลอดมาในยามที่ขมขื่นก็อดทน พ่อค้าที่เริ่มจะกลับสู่ระบบธุรกิจที่ปราศจากอภิสิทธิ์หากจะต้องแข่งขันกันมากขึ้น ทหารก็รู้ว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาชาติ และได้กำจัดบทบาทของตัวเองซึ่งเคยออกมาในรูปของการใช้อำนาจสร้างอภิสิทธิ์จนหมดสิ้นไป จนปัจจุบันนี้ภาพลักษณ์ของทหารก็ดูดีกว่าเก่ามาก นักการเมืองเองก็รู้ว่าสถาบันการเมืองจะอยู่ได้ถ้านักการเมืองมีความจริงใจต่อสังคมและประชาชน เมื่อทุกอย่างเริ่มที่จะเข้าสู่ในสิ่งที่ดีและเป็นนิมิตที่ดีว่า ประเทศชาติมีทั้งเสถียรภาพทางการเมืองและการค้าที่จะต้องช่วยกันผลักดันให้สินค้าของชาติขายดีกว่าเก่าแล้ว มันจะเป็นการถอยหลังเข้าคลองถ้าปัญหาของสุราถูกการเมืองและการทหารเข้ามาแทรกแซง เพียงเพราะอีกฝ่ายหนึ่งจะอยู่ไม่ได้เนื่องจากประมูลให้ตัวเลขแก่รัฐสูงเกินไป และมันจะยิ่งเป็นการชัดเจนถ้าอีกฝ่ายจะอยู่ได้ ก็ต่อเมื่อสมบัติของรัฐคือเหล้าแม่โขงถูกเบียดเบียนผลประโยชน์ออกไปเพื่อให้เหล้าหงส์ทองซึ่งเป็นสินค้าของเอกชนอยู่ได้ และถ้าเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นจริงๆ ในวันหนึ่งข้างหน้าเมื่อแม่โขงเกิดขายไม่ออกและต้องพับฐานไป หน้าไหนจะกล้าลุกขึ้นมายกมือแสดงความรับผิดชอบว่า ตัวเองเป็นส่วนที่ทำให้มันต้องเป็นเช่นนี้ เหล้าเป็นธุรกิจที่ทำรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการอย่างมหาศาล กำไรก้อนนี้เป็นแรงดึงดูดใจให้ผู้ที่เกี่ยวข้องหรือผู้ที่เคยเกี่ยวข้องต้องวนเวียนกลับมาเมากับมันอีก แม้แต่ธนาคารกรุงเทพซึ่งแนวทางธุรกิจก็ไม่เคยออกมาในด้านนี้มากมายนัก ก็เริ่มกระโดดเข้ามาเล่นอย่างเต็มตัว ทั้งนี้เพราะผลตอบแทนมันมหาศาล แต่ในการทำธุรกิจถ้าใครจะพึ่งแต่ฐานอำนาจทางการเมืองและอิทธิพลทางการทหารมาหนุนเพียงอย่างเดียวแล้ว วิธีการนั้นก็จะเป็นหอกที่จะคืนมาสนองให้ตัวเองได้ในวันหนึ่งถ้าเกิดมีอีกกลุ่มที่มีอำนาจเหนือกว่าตัวเอง ซึ่งตัวอย่างที่เกิดขึ้นในรอบเกือบสิบปีที่ผ่านมาก็พอจะมีให้เห็นได้บ้าง ซึ่งในที่สุดแล้ว “สุรามหาราษฎร” และ “สุราทิพย์” จะมาแล้วก็จากไป มีแต่ “แม่โขงกับกวางทอง” เท่านั้นที่จะต้องอยู่ตลอดไปเพราะเป็นของคนไทย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น